animal5

Monday, January 19, 2009

mushroom muchroom!!!



culture project//

Friday, January 16, 2009

CULTURE SHOCK!!!

ตอนนี้เรามีโปรเจกของมหาลัย เค้าให้เราประดิษอะไรก็ได้ลงไปในแก้วทดลอง
วงกลมขนาดเล็กกระจิ๋วริ๋ว ซึ่ง หลอดแก้วนี้เราจะได้เอาไปโชวที่โรงพยาลแห่งหนึ่งในลอนดอน
เค้าให้เราทำไปให้คนที่ผ่านไปผ่านมาในโรงพยาบาลดู ด้วยหัวข้อ

what does culture means to you?

เราให้ความหมายของสังคม เท่ากับ ดอกเห็ด

culture = mushroom

ที่เจริญเติบโตด้วยความรวดเร็วและมีหลากหลายแบบ
เห็ด หนึ่งต้น หมายถึง สังคมย่อยๆ subculture
พออยู่รวมกันเยอะๆก็กลายเป็นดง
เห็ดหรือดงของสังคมนั้นเอง

ตอนนี้ยังปั้นไม่เส็จเพราะมัวแต่ไปปั้นอะไรติ๊งต้องๆอยู่
เรยถ่ายรูปมาให้ดู





พูดถึงเรื่อง culture shock!!!เมื่อวานก่อนเราไปเรียนมีคาบเลคเชอรวิชาทีโอรี่
ปรกติอาจานก็จะเริ่มคาบด้วยการบอกกล่าวถึงเอ็กซิบิชั่นตางๆในลอนดอนและนักเรียนก็จะให้
ความสนใจเนื่องจากเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทุกๆคน อยู่ดีๆก็มีเจ้คนนึงดูมีอายุ ยกมือขึ้นแล้วก็พูดขึ้นมาว่า

'ฉันมาที่นี้ เพื่อจะมาเรียนหนังสือ ไม่ได้มาฟังการประกาสอะไรไร้สาระ กรุณาเข้าเรื่องที่คุณจะสอนด้วย
ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มาเรียนอีก'

ฝรั่งงงกันเรยทีเดียว ทุกคนถึงกับเงียบและอึ่งๆ แต่ด้วยความมีสติของอาจานผู้สอน เค้าก็บอกว่าโอเคได้ๆ
เราคิดว่าเป็นอาจานในประเทศยุโรป คงจะต้องมีความอดทนอย่างมากลองคิดว่าถ้าเป็นคนไทย คงจะไม่มี
ใครลุกขึ้นมาแสดงสิทธิส่วนบุคคลมากขนาดนี้


วิชาที่เราเข้าไปเรียนนี้เป็นวิชาที่สอนเรื่องเกี่ยวกับแนวความคิดต่างๆในมุมมองของศิลปะ
วันนี้เราเข้าไปเรียนแล้วรู้สึกว่าได้อะไรกลับมาหลายอย่างอยากจะเล่าให้ฟัง

เราได้เรียนเรื่อง beauty พูดง่ายๆก็คือความสวยงามที่มองเห็นและจับต้องกันได้
สิ่งที่น่าสนใจที่เค้าได้ให้แง่คิดกับนักเรียน เค้าบอกว่า

วัตถุ ที่เรามองเห็นกันอยู่นั้น เป็นเพียงแค่สิ่งที่เราเห็นแต่จริงๆแล้วเบื้องลึกนั้นันมีอะไรมากกว่านั้น
เค้ายกตัวอย่างหนังhorror เค้าบอกว่าแม้แต่หนังสยองขวัญที่น่ากัวก็ยังแฝงไปด้วย ความสวยงามของผู้คิด

อาจจะฟังแล้วเฉยๆ

แต่พอเค้าอธิบายให้เราฟังมากขึ้น เราเริ่มรู้สึกตกใจในความคิดนั้น

เค้าบอกเราว่าถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับเรายืนอยู่ตรงกลางระหว่างภาพ และโปรเจกเตอร์
เวลาเรามองภาพ มันคือสิ่งที่ฉายออกมาจากโปรเจกเตอร คนมักจะดูแค่เพียงภาพ
โดยปราศจากการมองถึงแก่นแท้ของสิ่งนั้นๆ ที่น่าตกใจกว่านั้น เค้าบอกเราว่า
งานศิลปะ หรือแม้แต่ทุกๆอย่างมันไม่มีจริงในโลก สิ่งที่ผลิตออกมาเป็นเพียงแค่
การcopy ของideaของผู้คิดเท่าน้น ของที่ออกมาจึงไม่มีสิ่งใดเพอแฟค เพราะความเพอแฟค
เป็นสิ่งที่อย่ในความคิด

ไม่รู้ว่าจะเข้าใจรึเปล่า ฮ่า แต่เรารู้สึกขนลุก กับการเรียนการสอนแบบนี้
ตอนทีเราเรียนเราจะนึกถึงแต่การออกแบบให้เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง
แต่นี้แหละคือการเรียนแบบ เข้าถึงศิลปะ